วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ข้อมูลทั่วไปของข้าวดอกข่า

ลักษณะประจำพันธุ์

ระยะแตกกอเต็มที่


– มีขนบนแผ่นใบ

– สีของแผ่นใบมีสีเขียว

– สีของกาบใบมีสีเขียว

– มุมของยอดแผ่นใบตั้งตรง

– สีของลิ้นใบมีสีขาว

– รูปร่างของลิ้นใบมีลักษณะแหลม

– หูใบมีสีเขียวอ่อน

– ข้อต่อใบมีสีเขียวอ่อน

ระยะออกรวง


– เส้นผ่านศูนย์กลางของลำต้น 2.6 มิลลิเมตร

– ปล้องมีสีเขียว

– ทรงกอตั้ง

– ยอดเกสรตัวเมียมีสีขาว

– กลีบรองดอกสีฟาง

– ไม่มีหางข้าว

ลักษณะเด่น 


ข้าวดอกข่า เป็นข้าวไร่พันธุ์พื้นเมืองที่มีความต้านทานต่อโรค เมล็ดยาว สีของเมล็ดข้าวสารมีสีน้ำตาลแดงอมม่วง เมื่อสุกจะมีกลิ่นหอม คล้ายกลิ่นใบเตย รสชาติอร่อย ข้าวไม่แข็ง หุงขึ้นหม้อ

วิธีการปลูก 


ใช้วิธีการหยอดหลุม วิธีนี้ใช้กันทั่วไป เหมาะกับทุกสภาพ โดยเฉพาะพื้นที่ลาด โดยการทำไม้สำหรับเจาะหลุม เรียกว่า ไม้สัก ยาวประมาณ 2 เมตร เป็นลักษณะกลมพอเหมาะกับมือ เจาะหลุมให้ลึก ประมาณ 3 เซนติเมตร ขนาดหลุมกว้าง 1 นิ้ว ระยะห่างของหลุม ประมาณ 25×25 เซนติเมตร หลังจากนั้น หยอดเมล็ดข้าวลงในหลุมทันที ซึ่งเกษตรกรใช้กระบอกไม้ไผ่หรือกระบอกที่ทำจากท่อ พีวีซี นำเมล็ดข้าวใส่แล้วหยอด หลุมละ 5-8 เมล็ด กลบดินปากหลุมด้วยกระบอกที่ใส่ข้าวปลูก เมื่อฝนโปรยลงมาหรือเมล็ดได้รับความชื้นจากดินก็จะเจริญเติบโตเป็นต้นข้าวให้ผลผลิตต่อไป การปลูกข้าวไร่ เกษตรกรจะต้องหมั่นดูแลกำจัดวัชพืช เพราะในที่ดอนจะมีวัชพืชมากกว่าในที่ลุ่ม


ระยะเวลาปลูก 


เริ่มปลูกเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม เก็บเกี่ยวเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม

พื้นที่ปลูก ประมาณ 1,200 ไร่ อยู่ในพื้นที่ตำบลบางทอง อำเภอท้ายเหมือง และตำบลตากแดด อำเภอเมืองพังงา ผลผลิตเฉลี่ย ประมาณ 400 กิโลกรัม/ไร่

การเก็บเกี่ยว 


ใช้วิธีการ “ลงแขก” ซึ่งเป็นประเพณีและภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไม่ให้สูญหายไป สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บเกี่ยวข้าวไร่ เรียกว่า “แกระ” โดยจะเกี่ยวทีละรวง แล้วมัดเป็นกำๆ ตากแดด 3-5 วัน

ที่มา :  http://info.matichon.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น